อธิยายหลักการออกแบบฐานข้อมูล โดยละเอียด
หลักการรออกแบบฐานข้อมูล
(Database
Design)
สิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาระบบสารสนเทศใด ๆ คือ
การออกแบบระบบที่ดีระบบที่ได้รับการ ออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้วนั้นเมื่อนำไปดำเนินการพัฒนาก็จะสามารถสนองตอบต่อวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
ฐานข้อมูลนับเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งสำหรับระบบสารสนเทศแบบต่าง ๆ
ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผล เนื่องจากฐานข้อมูลเป็นส่วนที่ใช้จัดเก็บข้อมูลนำเข้าของทุกระบบสารสนเทศ
ดังนั้น การออกแบบระบบสารสนเทศจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการออกแบบฐานข้อมูลด้วย
วัตถุประสงค์หลักในการออกแบบฐานข้อมูล
คือ การสร้างฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน
ซึ่งการออกแบบฐานข้อมูลในที่นี้จะมีความหมายครอบคลุมถึงการออกแบบฐาน
ข้อมูลในระดับแนวคิด (Conceptual level) และการออกแบบฐานข้อมูลในระดับภายในหรือเชิงกายภาพ
(internal level หรือ physical level)
การออกแบบฐานข้อมูลที่ดีและสมบูรณ์นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างทำได้ยาก
ซึ่งปัจจัยสำคัญในการออกแบบฐานข้อมูล คือ
ความสามารถในการสรรหาวิธีเพื่อแก้ไขปัญหานั้น ๆ อย่างประสิทธิภาพ ซึ่งโดยทั่วไป
การออกแบบฐานข้อมูลเพื่อนำมาใช้งานภายในองค์กรสามารถจำแนกได้ 2
วิธี คือ วิธีอุปนัย (inductive approach) และวิธีนิรนัย
(deductive approach)
1. วิธีอุปนัย
ดังนั้น
การออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีอุปนัยจึงเป็นการออกแบบฐานข้อมูลด้วยการเก็บรวบรวม
ข้อมูลและ/หรือโปรแกรมที่มีการใช้งานอยู่แล้วภายในหน่วยงานต่าง ๆ
ขององค์กรมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเพื่อจัดทำเป็นระบบฐานข้อมูลขององค์กรการออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีอุปนัย หรือ
การออกแบบฐานข้อมูลจากล่างขึ้นบน (bottom-up design) เป็นการออกแบบฐานข้อมูลจากแนวคิดพื้นฐานที่ว่า
ลักษณะงานในแต่ละหน่วยงานย่อมมี ความสมบูรณ์และความซับซ้อนแตกต่างกัน ฉะนั้น
รูปแบบของฐานข้อมูลที่ดีควรเกิดจากการรวบรวมข้อดีของข้อมูลและ/หรือโปรแกรมต่าง ๆ
ที่มีการใช้งานอยู่แล้วภายในหน่วยงานต่าง ๆ มาจัดทำเป็นรูปแบบฐานข้อมูลขององค์กร
เนื่องจากข้อมูลและ/หรือโปรแกรมดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในหน่วยงานนั้น
ๆ อยู่แล้ว
หากทว่าข้อจำกัดในการออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีอุปนัย
คือ การนำกรรมวิธีย่อย ๆ จากการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ
มารวมเข้าด้วยกันเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก
และต้องใช้เวลาอย่างมากจึงจะสามารถออกแบบและสร้างระบบฐานข้อมูลที่สมบูรณ์ได้
2. วิธีนิรนัย
การออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีนิรนัย หรือ
การออกแบบฐานข้อมูลจากบนลงล่าง (top-down design) เป็นการออกแบบฐานข้อมูลด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน
ขั้นตอนการทำงานของหน่วยงาน ต่าง ๆ ภายในองค์กร และความต้องการใช้งานฐานข้อมูล
จากการสังเกตการณ์ สอบถาม และ/หรือ
สัมภาษณ์บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานฐานข้อมูล
ตลอดจนรวบรวมข้อมูลจากแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่มีใช้อยู่ภายในหน่วยงาน
เพื่อนำมาออกแบบโครงสร้างฐานข้อมูลขององค์กร
หากทว่าข้อจำกัดในการออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีนิรนัย
คือ บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานฐานข้อมูลควรต้องเข้าใจ
ให้ความสำคัญและความร่วมมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
จึงจะทำให้ได้ระบบฐานข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุมระบบงานต่าง ๆ ภายในองค์กร
ซึ่งข้อดีของการออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีนิรนัย คือ
เป็นวิธีการออกแบบที่เหมาะกับการจัดวางระบบฐานข้อมูลในองค์กรที่มีความหลากหลายของหน่วยงาน
ตัวอย่างเช่น ในแต่ละหน่วยงานมีการอ้างถึงข้อมูลเดียวกันด้วยชื่อที่แตกต่างกัน
เป็นต้น
อธิยายหลักการออกแบบฐานข้อมูล โดยละเอียด
หลักการรออกแบบฐานข้อมูล
(Database
Design)
สิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาระบบสารสนเทศใด ๆ คือ
การออกแบบระบบที่ดีระบบที่ได้รับการ ออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้วนั้นเมื่อนำไปดำเนินการพัฒนาก็จะสามารถสนองตอบต่อวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
ฐานข้อมูลนับเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งสำหรับระบบสารสนเทศแบบต่าง ๆ
ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผล เนื่องจากฐานข้อมูลเป็นส่วนที่ใช้จัดเก็บข้อมูลนำเข้าของทุกระบบสารสนเทศ
ดังนั้น การออกแบบระบบสารสนเทศจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการออกแบบฐานข้อมูลด้วย
วัตถุประสงค์หลักในการออกแบบฐานข้อมูล
คือ การสร้างฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน
ซึ่งการออกแบบฐานข้อมูลในที่นี้จะมีความหมายครอบคลุมถึงการออกแบบฐาน
ข้อมูลในระดับแนวคิด (Conceptual level) และการออกแบบฐานข้อมูลในระดับภายในหรือเชิงกายภาพ
(internal level หรือ physical level)
1. วิธีอุปนัย
ดังนั้น การออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีอุปนัยจึงเป็นการออกแบบฐานข้อมูลด้วยการเก็บรวบรวม ข้อมูลและ/หรือโปรแกรมที่มีการใช้งานอยู่แล้วภายในหน่วยงานต่าง ๆ ขององค์กรมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเพื่อจัดทำเป็นระบบฐานข้อมูลขององค์กรการออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีอุปนัย หรือ การออกแบบฐานข้อมูลจากล่างขึ้นบน (bottom-up design) เป็นการออกแบบฐานข้อมูลจากแนวคิดพื้นฐานที่ว่า ลักษณะงานในแต่ละหน่วยงานย่อมมี ความสมบูรณ์และความซับซ้อนแตกต่างกัน ฉะนั้น รูปแบบของฐานข้อมูลที่ดีควรเกิดจากการรวบรวมข้อดีของข้อมูลและ/หรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่มีการใช้งานอยู่แล้วภายในหน่วยงานต่าง ๆ มาจัดทำเป็นรูปแบบฐานข้อมูลขององค์กร เนื่องจากข้อมูลและ/หรือโปรแกรมดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในหน่วยงานนั้น ๆ อยู่แล้ว
หากทว่าข้อจำกัดในการออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีอุปนัย
คือ การนำกรรมวิธีย่อย ๆ จากการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ
มารวมเข้าด้วยกันเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก
และต้องใช้เวลาอย่างมากจึงจะสามารถออกแบบและสร้างระบบฐานข้อมูลที่สมบูรณ์ได้
2. วิธีนิรนัย
การออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีนิรนัย หรือ การออกแบบฐานข้อมูลจากบนลงล่าง (top-down design) เป็นการออกแบบฐานข้อมูลด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนการทำงานของหน่วยงาน ต่าง ๆ ภายในองค์กร และความต้องการใช้งานฐานข้อมูล จากการสังเกตการณ์ สอบถาม และ/หรือ สัมภาษณ์บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานฐานข้อมูล ตลอดจนรวบรวมข้อมูลจากแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่มีใช้อยู่ภายในหน่วยงาน เพื่อนำมาออกแบบโครงสร้างฐานข้อมูลขององค์กร
2. วิธีนิรนัย
การออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีนิรนัย หรือ การออกแบบฐานข้อมูลจากบนลงล่าง (top-down design) เป็นการออกแบบฐานข้อมูลด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนการทำงานของหน่วยงาน ต่าง ๆ ภายในองค์กร และความต้องการใช้งานฐานข้อมูล จากการสังเกตการณ์ สอบถาม และ/หรือ สัมภาษณ์บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานฐานข้อมูล ตลอดจนรวบรวมข้อมูลจากแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่มีใช้อยู่ภายในหน่วยงาน เพื่อนำมาออกแบบโครงสร้างฐานข้อมูลขององค์กร
หากทว่าข้อจำกัดในการออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีนิรนัย
คือ บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานฐานข้อมูลควรต้องเข้าใจ
ให้ความสำคัญและความร่วมมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
จึงจะทำให้ได้ระบบฐานข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุมระบบงานต่าง ๆ ภายในองค์กร
ซึ่งข้อดีของการออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีนิรนัย คือ
เป็นวิธีการออกแบบที่เหมาะกับการจัดวางระบบฐานข้อมูลในองค์กรที่มีความหลากหลายของหน่วยงาน
ตัวอย่างเช่น ในแต่ละหน่วยงานมีการอ้างถึงข้อมูลเดียวกันด้วยชื่อที่แตกต่างกัน
เป็นต้น
แก้ไข ตัวอย่าง ฐานข้อมูล
การเพิ่มหนังสือหรือ วัสดุสารสนเทศให้กับระบบงานห้องสมุด
1.
การเพิ่มรายการหนังสือและวัสดุสารสนเทศ ผู้ใช้จะต้องเข้าไปเพิ่มที่
ระบบงานห้องสมุด ในเมนูที่ชื่อว่า
ระบบฐานข้อมูลวัสดุสารสนเทศ
2.กรอกข้อมูลชื่อหนังสือและหมายเลขISBN/ISSN เมื่อกรอกข้อมูลเบื้องต้นของหนังสือเรียบร้อย
คลิก ตกลง
3. หลังจากที่คลิก ตกลง แล้ว ให้คลิกคำว่า กรุณาคลิกที่นี่ ดังรูป
4. เมื่อคลิกแล้ว จะเจอหน้าต่างดังรูป
ใส่รายละเอียดของหนังสือ(เท่าที่ในหนังสือเล่มนั้นจะมี)โดยจะมีเลือกฟิลด์ให้เลือกตามรายละเอียดของหนังสือ
ให้คลิก
ที่ซึ่งจะบอกรายละเอียดของแท็ก(tag)นั้นๆ ดังรูป
ในกรณีที่แท็ก(tag)ที่ต้องการไม่มีให้ดูทางด้านล่าง
ใช้เม้าส์คลิกที่ตัวเลขที่ต้องการ1ครั้ง
เมื่อคลิกแล้ว
ตัวเลขที่คลิกนั้นจะถูกเพิ่ม ดูกรอบสี่เหลี่ยมสีแดง
เมื่อเพิ่มรายละเอียดเสร็จสิ้นแล้ว
คลิกที่คำว่า เพิ่มไอเทมให้รายการนี้ ดูจากลูกศรสีฟ้า
จากนั้นก็กด Submit ดูจากลูกศรสีแดง
เมื่อมาถึงหน้าต่างนี้แล้้ว
คลิกเพิ่มItem ตามลูกศร ดังรูป
ก็จะพบกับหน้าต่างให้กรอกรายละเอียดของหนังสือ
-ประเภทวัสดุ -> ใ้ห้เลือกประเภทของหนังสือที่ได้เพิ่มลงไปเช่น ถ้าเป็นวารสาร ก็ให้เลือก
วารสาร เป็นต้น
-วัสดุของห้องสมุด -> หนังสือหรือวัสดุสารสนเทศนี้เป็นของห้องสมุดไหนก็ให้ใส่ไว้ในห้องสมุดนั้น
ในตัวอย่างหนังสือเป็นของห้องสมุดหลัก จึงไว้ในห้องสมุดหลัก
-สถานที่จัดเก็บ -> เลือกสถานที่จัดเก็บหนังสือ
-เลขทะเบียน -> คือจำนวนหนังสือที่มีอยู่ในห้องสมุด
เช่น ถ้ามีหนังสืออยู่1,000 เล่ม เมื่อมีเพิ่มเข้ามาอีก500เล่ม
ก็ให้นับเพิ่มจาก1,000เล่มไปเรื่อยๆจนครบจำนวนหนังสือใหม่ที่ได้เพิ่มเข้ามา
ทั้งหมดก็จะได้1,500เล่ม
ซึ่งในตัวอย่างเพิ่มเป็นเล่มแรกก็ใช้เลข000001
-Barcode -> การเพิ่มBarcode
สามารถเพิ่มได้ตามต้องการ แต่ในตัวอย่าง จะใช้Barcode เหมือนกับ
เลขทะเบียน เพราะว่าจะง่ายต่อการ พิมพ์Barcode เพื่อติดหนังสือ
-ราคา -> ราคานี้ให้ดุจากหนังสือหรือวัสดุสารสนเทศเล่มนั้นๆ
-ฉบับที่ -> ดูทางขวามือจะมีคำว่า วัสดุนี้ มีจำนวน 0
รายการในฐานข้อมูล ถ้ามี 0
รายการ
ให้เราใส่ 1 แต่ถ้ามี 1รายการ ให้เพิ่ม 2 เพราะว่าจะเป้นการนับจำนวนหนังสือหรือวัสดุสารสนเทศ
ในฐานข้อมูลว่า
มีเล่มนี้ทั้งหมดกี่เล่ม
หลังจากที่เพิ่มรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว กด
เพิ่มข้อมูล
เมื่อกดเพิ่มข้อมูลแล้ว
ก็จะมีหน้าต่างแสดงหนังสือที่เพิ่งเพิ่มลงไป
หมายเหตุในกรณีที่มีหนังสือเล่มเดียวกันแต่มีหลายเล่ม
ให้เพิ่ม โดยการกด

เมื่อกดมาแล้ว
ก็ให้ใส่รายเอียดหนังสือหรือวัสดุสารสนเทศ
(เหมือนกับที่เคยทำครั้งแรกที่เพิ่มหนังสือ)
แต่จะต้องเปลี่ยนเลขทะเบียนให้นับจากของเดิม
คือเมื่อก่อนหน้านี้เราได้เพิ่มหนังสือไป
โดยใช้เลขทะเบียน 000001 แต่ในครั้งนี้เราต้องใช้ 000002
Barcode ก็ต้องเปลี่ยนจะใช้ซ้ำกับของเดิมไม่ได้
ต้องเปลี่ยนให้เหมือนกับ เลขทะเบียน
ฉบับที่
ก็ให้ดูจากทางขวามือ ถ้ามีจำนวน 1 รายการ ก็ใส่ 2
ดังรูปที่อยู่ทางด้านล่าง
เมื่อเสร็จแล้วกดเพิ่มข้อมูล

หลังจากที่เพิ่มข้อมูลแล้ว
จากเห็นว่า หนังสือได้ถูกเพิ่มเป็น 2 เล่ม ซึ่งเป็นหนังสือชนิดเดียวกัน
จากนั้นคลิกที่ กลับหน้าฐานข้อมูลวัสดุฯ

หนังสือที่เราเพิ่งเพิ่มลงไป
Items จะบอกจำนวนหนังสือชนิดนี้ว่ามีกี่เล่ม
ในตัวอย่างมี 2 เล่ม
ซึ่งเป็นหนังสือชนิดเดียวกัน ใช้เลข ISBN/ISSN
เหมือนกัน

ที่มา
: http://schoolforweb.com/library/index3.htm
แก้ไข ตัวอย่าง ฐานข้อมูล
การเพิ่มหนังสือหรือ วัสดุสารสนเทศให้กับระบบงานห้องสมุด
|
|
1.
การเพิ่มรายการหนังสือและวัสดุสารสนเทศ ผู้ใช้จะต้องเข้าไปเพิ่มที่
ระบบงานห้องสมุด ในเมนูที่ชื่อว่า
ระบบฐานข้อมูลวัสดุสารสนเทศ ![]()
2.กรอกข้อมูลชื่อหนังสือและหมายเลขISBN/ISSN เมื่อกรอกข้อมูลเบื้องต้นของหนังสือเรียบร้อย
คลิก ตกลง
![]()
3. หลังจากที่คลิก ตกลง แล้ว ให้คลิกคำว่า กรุณาคลิกที่นี่ ดังรูป
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น